😇Trail Running งานแรกของเหมียวลาย สนุกจนลืมเจ็บ (เขาประทับช้าง คอมเพลสปอร์ตเทรล 2016)
เขียนบล็อคต่อดีกว่า วันนี้งานไม่ค่อยยุ่ง แอบๆนายนั่งพิมพ์ก็อกแก็กๆ ..อย่าเพิ่งมาสั่งงานตอนนี้นะนายจ๋า
หลังจากบาดเจ็บจากงานวิ่งถนนระยะ Half Marathon ที่เขาใหญ่ ก็ยังมิเข็ด มิวายหางานวิ่งที่ใหม่ไปเรื่อย คราวนี้ได้ idea ใหม่ เอ๊ะ! เราเคยเห็นแว็บๆ ผ่านๆ ในเนต ที่คนเค้าไปวิ่งในป่ากัน ลุยน้ำ บุกป่า ฝ่าดง น่าสนุก ..เค้าเรียกว่าวิ่งอะไรน๊า? เลยเข้า google ไปตามหาคำตอบของการวิ่งประเภทนี้ จึงได้คำตอบที่ต้องการ
การวิ่งประเภทนี้ เรียกว่า "การวิ่งเทรล" หรือการวิ่งวิบาก วิ่งผจญภัยในป่า ภาษาอังกฤษ คือ "Trail Running" ซึ่งการวิ่งประเภทนี้ จะต้องใช้กล้ามเนื้อในการวิ่งมากกว่าการวิ่งถนนปกติมากอยู่ เนื่องจากพื้นในป่าเป็นพื้นดิน พื้นโคลน(หน้าฝน) ลำธารเล็กๆ พื้นหิน ทราย กรวด บางสนามมีรากไม้ ตอไม้โผล่กันพรึบพรับ วิ่งกันหน้าทิ่มก็หลายคนอยู่ แถมด้วยบางสนามต้องวิ่งขึ้นเขาชัน เป็นกิโลๆ ตอนลงก็ปล่อยไหลได้ตามสบาย บางสนามต้องปีนผา ด้วยมือเปล่า หนามทิ่มมือ เลือดไหลซิบๆ ที่สำคัญ การวิ่งเทรลจะมี item เยอะกว่าการวิ่งถนน เพราะ การที่วิ่งหายเข้าไปในป่านั้น จุดให้น้ำจะอยู่ห่างกันประมาณ 5กิโล ต่อ 1 จุดบริการ ฉนั้นเป้น้ำ เข็มขัดน้ำ จำเป็นนะค่ะ และห้องน้ำไม่มีค่ะ ต้องวิ่งเข้าป่ายิงกระต่าย เตรียมทิชชู่เปียกไว้ก็ดี โชคดีหน่อยวิ่งผ่านหมู่บ้านก็ขอชาวบ้านเข้าห้องน้ำ(ถ้าเค้าอนุญาตอ่ะน่ะ) ว่าแล้วเรามาดูอุปกรณ์สำหรับวิ่งเทรลแบบbasic ก่อนดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง
(อันนี้ก็สังเกตนักวิ่งเค้ามาอีกที)
- เป้น้ำ หรือเข็มขัดน้ำ ไว้เติมน้ำระหว่างทางได้
- หมวก หรือผ้า buff ไว้กันเหงื่อไหลเข้าตา
- เสื้อ ควรเป็นเสื้อแขนยาว หรือใส่ปลอกแขนกัน UV ก็ได้ เพื่อกิ่งไม้ขีดข่วน กันแมลงมีพิษต่างๆ กันแดด
- กางเกง ควรเป็นขายาว กันแดด กันสัตว์มีพิษ กันกิ่งไม้ขีดข่วน แต่ใส่ขาสั้นก็ไม่ผิด (แล้วแต่ความถนัด)
- รองเท้าเทรลโดยเฉพาะ (เพราะรองเท้าวิ่งถนนปกติ เกาะพื้นดินไม่ดี วิ่งแล้วลื่น)
- Trekking Pole (ไม้ค้ำยัน) สำหรับผ่อนแรง ช่วยพยุงตอนขึ้นเขา ลงเขา
- Energy Gel, Energy Bar, กล้วยตาก พกไว้ด้วย เพราะคุณจะหิวมากระหว่างวิ่ง ขอบอกว่าช่วยคลายหิวได้เยอะเลยแหละ
- แว่นตากันแดด (ถ้ามี)
- โทรศัพท์มือถือที่สัญญาณชัด เนื่องจากหากวิ่งหลงป่า สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้
- นกหวีด (กรณีต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน)
แล้ว item แต่ละชิ้นนะคุณเอ้ย!! แพงอย่าบอกใคร เรายังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแพงแบบนี้ แต่ก็พยายามสอยมาจนจะครบแล้วแหละ เอาที่ไม่แพงมากแต่ใช้งานได้ดี...ใจมันรัก ก็เลยสรรหาไปเรื่อย
ตอนนี้ขาดแว่นตา และ trekking pole ซึ่งเราว่ามันแพงไป เอาไว้ก่อน ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่สำหรับตอนนี้
หมดเวลาพล่าม!!
มาดูงานวิ่งเทรลครั้งแรกของเราดีกว่า งานนี้ห้าวอีกแล้ว เค้ามี 3km. 10 km. 21km. 32 km. ลงมันไปเลยค่ะ 21km. รออะไรเล่า เราใช้ชื่อทีมว่า ''ทีมหมาเปลี่ยว" ผวนคำได้ว่า ทีมเหมียวป่า (คิดได้เนอะ)
งานนี้ คืองาน "เขาประทับช้าง คอมเพลสปอร์ตเทรล 2016" จัดขึ้นที่เขาประทับช้าง(จอมบึง) จ.ราชบุรี วันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย 59 งานนี้เราชวนเพื่อนคนเดิม และน้องชายเราเองไปวิ่งด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อนเราวิ่งกับเราอยู่แล้ว แต่น้องชายนี่สิไม่เคยวิ่ง ไม่เคยซ้อมใดๆ แต่อยากจะลง 21 km.ด้วย แม่เจ้า!! เดี๋ยวได้รู้ฤทธิ์ตะคริว แน่นอนน้องเอ้ย!!!!
เราจัดการจองรีสอร์ทแถวสวนผึ้ง เนื่องจากที่จอมบึงนั้นเต็มเอี๊ยด ..ระยะห่างจากรีสอร์ทถึงงานวิ่งก็ 19 km. งานนี้รบกวนพ่อมาเป็นพลขับให้ เพราะคิดว่าขากลับคงขับกลับเองไม่ไหวแน่ .....เรามาถึงงาน วันเสาร์ที่ 18 มิ.ย รับเบอร์วิ่ง รับเสื้อ งานดูอบอุ่นดี น่าสนุก
![]() |
งานนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆนะ |
หลังจากรับเบอร์วิ่งเสร็จ เห็นป้ายบอกทางไปถ้ำบิน เลี้ยวเข้าไปในถนนข้างๆ งาน เลยถือโอกาสเยี่ยมชมก่อนไป check-in ที่รีสอร์ท ถ้ำเขาบินนี้เสียค่าเข้าชมด้วยนะเออ 😏 เดินๆ ลงไปในถ้ำ ยิ่งลึกยิ่งหายใจไม่ออก พื้นลื่นอีกต่างหาก ยิ่งเดินยิ่งเหงื่อแตก ออกมาจากถ้ำ แฉะเลย เหมือนคนอาบน้ำมาใหม่ๆ
![]() |
หินงอกหินย้อย |
รูปมีแค่นี้ สำหรับถ้ำเขาบิน เพราะไม่คิดว่าจะได้นำมาลงบล็อค ^^
หลังจากชมความงามของถ้ำเขาบินแล้ว เราก็เดินทางไปยังที่พัก เราเลือกชาร์มมิ่งโฮม รีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ทเล็กๆ เจ้าของเป็นคุณครูผู้หญิง ท่าทางใจดี เราเลือกที่นี่เพราะเราไม่เคยมาเที่ยวสวนผึ้งเลยสักที ที่พักไหนว่างก็จองเลย แต่ก็ยังตั้งอยู่บนความสมเหตุสมผล
เราเข้านอนกันประมาณ 3 ทุ่มนิดๆ แต่ก่อนนอน หยิบเสื้อมาลองกันซะหน่อย แบบว่า ตื่นเต้นไง เทรลแรก ...
Fitting ha!ha!
เราตื่นนอนตี 3 มานั่งกินขนมปัง กล้วยหอม นมกล่องที่เตรียมไว้เพื่อรอการใช้พลังงานที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ที่สำคัญ เราตื่นมาเพื่อนั่งรอรอบเข้าห้องน้ำ ผลัดกันเดินเข้าเดินออกห้องน้ำอยู่นั่นแหละ ไม่ปวดท้องสักที สงสัยตื่นเต้นจัด ..ไม่ถ่ายแบบนี้กลัวจริงๆ การปวดท้องระหว่างทาง ไม่กล้าแว๊บเข้าป่า ยังไม่เคย ไม่ชิน อายก้น แค่มโนก็..อี๋ แล้ว555
เราออกจากที่พัก ตี 4:30 เพื่อจะมารอ Start ตี5:45 มั้ง(ถ้าจำไม่ผิด) เราทั้งสามคนตื่นเต้นกับเทรลแรกมาก มองซ้ายมองขวานักวิ่งละลานตา เป็นพันๆคน แล้วทุกคนอุปกรณ์จัดเต็มแทบทั้งนั้น เค้ามีเป้น้ำกันหมดเลย เราสามคนนี่อาราย มาทามมาย.....ไร้อุปกรณ์เทรลใดๆ รองเท้ายังใส่รองเท้าวิ่งถนนมาวิ่งเลยอ่ะ แบบว่าลองสนามดูก่อนไง ...น้องชายเรารู้สึกเขิลๆ อายๆ ไม่กล้าถ่ายรูป ไม่กล้าวอร์มร่างกาย เพราะน้องเรายังไม่เคยลงงานวิ่งไหนเลย เลยยังไม่ชินกับนักวิ่งเยอะๆแบบนี้ แถมอุปกรณ์นักวิ่งคนอื่นเค้าพร้อมไง เลยดูอายๆ
![]() |
ก่อนวิ่ง หน้าตาดูดีเนอะ |
ว่าแล้ว เราก็พร้อมกันแล้วล่ะ ไปกันเลย !! เย่ เย่
เราสามคนออกจากจุด Start ด้วยความตื่นเต้น บรรยากาศเย็นๆ มืดๆ นักวิ่งเป็นพัน เสียงแตรดัง ทำให้หึกเหิมยิ่งนัก......สุดยอดค่ะ
ตอนวิ่งช่วงแรกจะยังเป็นพื้นราบนิดหน่อย ในใจคิดตลอดว่าเมื่อไหร่จะถึงทางเข้าป่าสักที แต่พอประมาณกิโลที่ 2 เริ่มวิ่งเข้าสู่ทางป่าแล้ว ใจเต้นตึกตัก เพราะเราไม่รู้หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ........เราวิ่งผ่านป่าที่มีต้นไม้เขียวชอุ่ม มีพืชสมุนไพรหลายชนิดขึ้นเต็มสองข้างทาง ต้นไม้เล็กๆหลายต้นถูกเหยียบย่ำซะจนแหลกโดยนักวิ่ง เห็นแล้วก็สงสารต้นไม้ เราพยายามไม่เหยียบต้นไม้เหล่านี้ เพราะเราไม่อยากขึ้นชื่อว่าเข้ามาทำลายธรรมชาติ เลี่ยงได้เราก็เลี่ยงที่จะไม่เหยียบเค้า ไม่นานก็เข่าสู่ป่าไผ่ที่ขึ้นอยู่เป็นกอๆ เต็มไปหมด อากาศภายในป่าร่มรื่น แดดเริ่มออก แต่เราไม่โดนแดดกัน เพราะมีป่าไม่ไผ่ โน้มลำต้นเข้าหากันเป็นอุโมงค์กันแดดให้เราได้วิ่งเกือบตลอดเส้นทาง ....จนเราวิ่งมาจนถึงจุดPeak!!
เรามาถึงทางที่จะวิ่งขึ้นเขาแล้ว แอบตื่นเต้น อยู่ไม่น้อย แต่เอ๊ะ! ทำไมนักวิ่งเค้ายืนอะไรกันมากมาย ไม่ปีนขึ้นไปล่ะ เราสามคนเห็นดังนั้นก็หยุดถ่ายรูปกันเดี๋ยวเดียว ก็รีบๆ ปีนขึ้นไปตามแถวที่เค้าต่อกันอยู่ ....ขอบอกว่าชันเอาเรื่องเลยแหละ ระหว่างปีนต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเท้าต้องคอยเหยียบก้อนหินให้มั่น มือทั้งสองข้างต้องคอยหาที่จับตามกิ่งต้นไม้ หรือแม้กระทั่งจับก้อนหินอีกก้อนเพื่อทรงตัว โห!! น้องๆ หน้าผาจำลองเลยอ่ะค่ะ
พอพวกเราทั้งสามตะเกียกตะกายปีนขึ้นมาถึงด้านบนของเขา เราก็ต้องต๊กกะใจ กับจำนวนนักวิ่งจำนวนมาก ที่แออัดกันอยู่ไม่สามารถลงเขาได้ เนื่องจากเขานั้นชันเป็นอย่างมาก หากไม่คอยจับกิ่งไม้ หรือ ต้นไม้มีหวังหน้าทิ่ม หัวทิ่ม แน่นนอน confirmed! และอีกเหตุผลหนึ่งที่นักวิ่งมาแออัดกันแบบนี้ก็เพราะ ระยะปล่อยตัวของ 21 km. และ 32 km. นั้นกระชั้นชิดกันเกินไป ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก นักวิ่งหลายคนตั้งใจจะทำเวลาเข้าเส้นชัย ก็ไม่สามารถทำได้ ตอนนี้นักวิ่งหลายคนเริ่ม Slow life ไม่แคร์เวลากันแล้ว
![]() |
Selfie กันดีกว่านะเรา |
![]() |
ยืนอยู่ท่ามกลางขุนเขา ดี๊ดีเนอะ |
![]() |
ติดจริงๆ
|
![]() |
เห็นมั้ย แถวยาวจริงอะไรจริง |
![]() |
รอแล้วรอเล่า
|
เรารอลงเขากันนานมาก
จนรู้สึกว่า พลังงานเริ่มจะไม่ตื่นตัวแล้ว ทำไงดี ทำไงดี....เหมือนถ่านไฟในตัวกำลังจะหมดลง
ลืมเล่า...น้องชายเรา
วิ่งไปเป็นตะคริวตลอดทาง ต้องแวะจุดปฐมพยาบาล พ่นเสปรย์ตลอด
แต่ก็พยายามฝืนวิ่งไปกับเรา เพราะคุณท่านกลัวต้องวิ่งคนเดียว เลยพยายามตามให้ทัน
แรกๆ เราก็ช่วยกันบีบนวดน้องให้บรรเทา หลังๆชักเป็นตะคริวบบ่อยเกิน
ทิ้งไว้กลางป่าเลยค่ะ แล้วบอกน้องว่า "ไปล่ะน่ะ บอกแล้วให้ซ้อม ให้วอร์ม
เป็นไงล่ะ สมน้ำหน้า" 55 เหมือนเป็นพี่ที่ใจร้ายเนอะ แต่...ก็...ใจร้ายอ่ะแหละ....
อ่อ ลืมเล่าอีก
งานนี้พระองค์ภาเสด็จมาเข้าร่วมการแข่งขันระยะ 21km.ด้วยเหมือนกัน ทำให้สองข้างทางระหว่างที่วิ่งนั้น เต็มไปด้วยทหาร และตำรวจ
มากมาย แอบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ข้างทางก็มี ยืนอยู่โจ้งๆข้างทางก็มี
ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ พอดีเราปวดปัสสาวะอั้นมาตลอดทาง ว่าจะเข้าไปยิงกระต่ายบ้าง
แต่ อะจ๊าก!!! จะหย่อนก้น ก็เจอพี่ทหารยืนมองอยู่
วิ่งๆไปพยายามมองหาทำเลปลดทุกข์ที่ปลอดภัย อ่ะ
ไม่มีคนล่ะ ดีเลย กำลังวิ่งเข้าข้างทาง อะจึ๋ย!!
พี่ตำรวจมาสิงอยู่ในพุ่มไม้เมื่อไหร่เนี่ย.....หน้าเสียเลย อั้นไว้ ไม่ฉี่แล้ว
ช่างมัน เชื่อมั้ย การอั้นฉี่วิ่งเนี่ย ฉี่ระเหยออกมาทางผิวหนังได้เฉยเลย
จากที่ปวด ไม่ปวดแล้ว เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เราวิ่งข้ามเขากันมาหลายลูก
ทุกลูกจราจรติดขัดแบบนี้เรื่อยๆ พอลงเขาได้ก็วิ่งฉิว พอจะขึ้นเขาก็ติดอีก
เป็นแบบนี้เรื่อยไป ระหว่างการลงเขานั้นชันมาก
บางจุดไม่คิดว่าจะสามารถลงได้ด้วยซ้ำ แต่ได้น้ำใจจากเพื่อนนักวิ่งชาย ที่คอยจับมือ
ช่วยประคองนักวิ่งสาวๆ ตอนลงเขา สุภาพบุรุษมาก ประทับใจค่ะ ..แต่ตอนนักวิ่งหนุ่มๆ ผู้มีน้ำใจช่วย support
ตอนเราหันหลังปีนลงเขาน่ะ เราก็กลัวเค้าเห็น กกน. เราเหมือนกันนะ
เพราะเราใส่ขาสั้น แล้ว support ด้านในมันม้วนขึ้นไป เราว่าเค้าเห็น กกน. เราแน่ๆเลย ..เสีย look
หมดเลย
วิ่งมาใกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว เหลือเขาอีก
1 เนิน ที่จะต้องข้ามไป
เขานี้มีนักวิ่งสาวเป็นลมล้มพับหมดสภาพ แล้วเป็นบนเขาที่ลาดเอียง และชัน
มองลงไปสูงเอาเรื่อง เห็นแล้วน่าสงสารมาก นักวิ่งคนอื่นช่วยกันปฐมพยาบาล พัดวี
ดมยา น้ำใจงามกันยิ่งนัก ประทับใจแทน....ไม่ทันไร หันมาเจอเพื่อนเราตะคริวรับประทานไปด้วย
นางไม่สามารถไปต่อได้ เป็นตรงไหนไม่เป็น มาเป็นบนเขาเอียงๆ สูงๆ
มือหนึ่งนางก็เกาะต้นไม้ไว้แน่น มือนึงก็ถือไม้ไผ่ค้ำยันที่เราหาให้ระหว่างทาง
นางบอกให้ไปก่อน ไม่ไหวแล้ว ....อย่างเรานี่เหรอจะทิ้งเพื่อน ไม่มีทาง
ไม่นานมีนักวิ่งหนุ่ม ๆ ถามว่าเป็นไงบ้างครับ พร้อมช่วยยืดเหยียดขา
พ่นเสปรย์ให้นาง จนดีขึ้น โอ้วว!! หล่อเลยค่ะ
ประทับใจต่อไปอีก
พอนางดีขึ้น ก็ค่อยๆวิ่งลงเขากัน
ระหว่างทางที่จะลงไปยังพื้นราบเพื่อต่อเข้าไปยังเส้นชัย เป็นบันไดอิฐสูงเชียวแหละ
ตอนนี้อาการเจ็บเข่า จี๊ดๆ มาแล้ววว และจี๊ดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะบันไดมันสูงไง หลายขั้นเลย โอ้ว!! ไม่นะใกล้ถึงจุดหมายแล้ว อย่าทำแบบนี้กับฉัน
น้องเข่าจ๋า...
หลังจากหลุดจากบันไดนรกนั่นมาได้
เราก็พยายามวิ่งเหยาะๆ มาเข้าเส้นชัยจนได้ ในเวลาเกือบ 5
ชั่วโมง ......โอ๊ย! โอ๊ย!! ขำทีมหมาเปลี่ยวแท้ ไปถึงเส้นชัยกับเค้าได้ด้วยนิ
Cr. ShutterRunning |
งานนี้เราลืมเจ็บน่องไปเลย เพราะรัดน่องของเค้าดีจริงนะ ช่วยได้ดีทีเดียว
ปล.
ถามพ่อว่า ไปจอดรถนอนรอที่ไหนมา พ่อบอก "นอนไม่ได้เลย ลิงมาขย่มรถ
กวนใจตลอดเวลา ไม่รู้มาจากไหน ตอนจอดรถก็ดูแล้วไม่เห็นมีสักตัว" 5555++นี่เราพาพ่อมาลำบากนะเนี่ย
![]() |
ภูมิใจล่ะสิ |
![]() |
งานนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆ ไง บอกแล้ว |
![]() |
สำเร็จแล้วนะ เทรลแรกของพวกเรา |
Event : Kao Pratubchang Compressport Trail 2016
Date : 19 June 2016
Place : Kao Pratubchang (Chombung, Ratchaburi)
Finished Time : 05:16 hrs.
*First Trail
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น