วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

Tiger Balm Khao Yai Trail 2016 สนามเทรลอีกแบบ ที่น่าลอง


😄Hi!
เมื่อเดือนตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา เราเสาะแสวงหางานวิ่งเทรลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก เนื่องจากเราติดใจการวิ่งผจญภัยในป่าขึ้นมา ตอนนี้ก็มองหาแต่งานวิ่งเทรล ที่ไหนจัด ไม่ไกลมากเราจะไป จนเราได้มาเจองานวิ่งของ "Tiger Balm Khao Yai Trail 2016"

ซึ่งจัดขึ้น ณ เสมอดาวรีสอร์ทเขาใหญ่ ทราบมาว่ารีสอร์ทนี้เป็นสถานที่พักผ่อนและไว้สำหรับจัดคอร์สล้างพิษตับเพื่อสุขภาพด้วย ...เราจึงจัดการชวนคุณเพื่อนเจ้าเก่าไปวิ่งงานนี้กัน เพราะเรายังรู้สึกว่านางยังติดใจวิ่งเทรลเหมือนเราอยู่ ..เมื่อนาง say yes เราจึงจัดการทำการสมัคร ชำระเงิน และจองที่พักเป็นรีสอร์ทที่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานวิ่งเท่าไหร่นัก แค่ประมาณ 9 กิโล และเราตกลงว่าจะขับรถไปกันเอง สบายๆ หิวไหนแวะนั่น

และแล้วก็ถึงวันเดินทาง เราออกเดินทางกันวันเสาร์ที่ 01 ตุลาคม แอบขับหลงจากบ้านไปประชาชื่น แต่เอ๊ะ ทางมันเชื่อมกันไปออกดอนเมืองได้นี่นา ..เป็นสาวกรุงเทพแท้ๆ แต่ไม่ชินเส้นทาง เพราะเพิ่งจะขับรถเป็นได้ปีกว่าๆ เท่านั้นเอง แต่กระดี๊กระด๊าจะออกต่างจังหวัดแล้ว..คริ คริ ..หุ หุ

ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝั่งปากช่อง แล้วเลี้ยวไปทางวังน้ำเขียว เพื่อไปต่อยังเสมอดาวรีสอร์ท (จริงๆ เราเคยขับไปเขาใหญ่ก่อนหน้านี้แล้วล่ะ แต่ขึ้นเขาไปกางเตนท์นอน ซึ่งจะเล่าในบล็อคหน้า กับการขับรถขึ้นเขาใหญ่ครั้งแรกของเรา) ..และเราก็มาถึงเสมอดาวประมาณ 14:30 น. ฝนตกเพิ่งจะหยุด สถานที่ภายในรีสอร์ทเป็นลานกว้าง มองเห็นภูเขาโดยรอบ อากาศหลังฝนตกดีเว่อร์จริงๆ ..จากนั้นเราก็จัดแจงลงทะเบียน รับเสื้อ รับ BIB กันให้เรียบร้อย ยืนปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ  selfie กันก็เตรียมตัวไปต่อยังที่พักซึ่งคาดว่าไม่ไกลนัก




แวะดื่มกาแฟที่ Amazon ตรงถนนธนะรัชต์
เสมอดาวรีสอร์ท กว้างมาก
แล้วเราก็ขับรถมาเรื่อยๆ ผ่านรีสอร์ทโน่น นี่ นั่น มากมาย จนมาถึงรีสอร์ทที่เราจองไว้(ขอโทษ จำชื่อรีสอร์ทไม่ได้)  แต่ที่พักเค้ามีหลายหลังมาก และวินาทีนี้มีแต่นักวิ่งงานนี้ทั้งนั้นที่มาจองห้องพัก
ห้องกว้างดี เฟอร์นิเจอร์ธรรมดาทั่วไป
ห้องน้ำก็ใช้ได้

จองมาแบบ King bed แต่ได้แบบ twin bed

เราจัดการ Dinner กัน 2 คน ใต้แสงนีออน ด้วยไก่ย่าง ข้าวเหนียว พุทรานมสด น้ำผลไม้ที่เตรียมมา บลา บลา..... แล้วเข้านอนกัน 3 ทุ่มและหลับปุ๋ยเพราะเพลียจากการเดินทาง  ฝนตกตั้งแต่ 1 ทุ่มและตกหนักทั้งคืนไม่หยุด จนกระทั่งตี 3 กว่าๆ ถึงหยุด และรู้เลยว่าพรุ่งนี้หนทางวิ่งของเราต้องเต็มไปด้วยโคลนเละๆ อย่างแน่นอน^^(พี่ที่รีสอร์ทบอกว่าฝนตกหนักแบบนี้มา 3-4วันแล้ว)

ตี 3 นาฬิกาปลุกดัง จึงรีบตื่นอาบน้ำเสร็จมานั่งกินของว่างต่อ นั่งรอให้ปวดท้องนั่งห้องน้ำ ซึ่งมักจะถ่ายไม่ออกทุกครั้งที่มาพักต่างจังหวัดแปลกที่แบบนี้..และนี่คืออุปสรรคของเรา 2 คน และเชื่อว่าหลายคนก็เป็นกันใช่มั้ยค่ะ ...ตี 4 แล้วยังไม่ปวดถ่าย ก็ช่างมัน ป่ะ เราออกเดินทางไปที่งานกันได้แล้ว เดี๋ยวไม่มีที่จอดรถ ........เราขับรถออกมาเปิดไฟตัดหมอกตลอดทาง หมอกหนามากจนมองไม่เห็นทาง และเราก็สายตาสั้น ก็เลยค่อยๆ ขับไปเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึงที่บริเวณงาน แล้วเข้ามาจอดด้านใน มีนักวิ่งหนุ่ม 2 คนยืนอยู่ช่วยโบกรถให้ นี่ก็ถอยหน้าถอยหลัง จอดไม่ได้สักที ทั้งที่รถต่อหลังก็ไม่มี..จนพี่ 2 หนุ่มนักวิ่งคงเริ่มเซ็งล่ะ อายจัง55

เรา warm ร่างกายกันเบาๆ เนื่องจากกลัวจะจุกท้องเพราะทานมาอิ่ม และอาการ ณ ตอนนั้นเย็นแบบมีน้ำค้าง หมอกอย่างหนา พื้นหญ้าเปียกแฉะ เลยไม่ได้ warm อะไรเยอะ....จากนั้นเรารอเวลาปล่อยตัว อ่อ ลืมบอก เรากับเพื่อนลงกันคนละระยะ เพื่อนลง 10km. เราลง 21km.เหมือนเดิม และงานนี้เรายังคงใส่รองเท้าวิ่งถนนมาวิ่งเทรลอีกตามเคย เนื่องจากเรายังไม่อยากลงทุนซื้อรองเท้าเทรลที่ราคาค่อนข้างเอาเรื่อง และเราอยากให้แน่ใจอีกสักครั้งว่าเราชอบเทรลจริงๆ แล้วค่อยตัดสินใจอีกที
หมอกปกคลุม บวก ความสดชื่น



แต่งตัวเป็นป้ามากๆ กระเป๋าคาดเอวเหมือนไม่ได้มาวิ่ง เหมือนมาขายของ 555 ขำตัวเอง
 เราถูกปล่อยตัววิ่ง ก่อนเพื่อนเรา และเป็นครั้งแรกที่เราวิ่งแยกกันคนละระยะ ตื่นเต้นดีที่ต้องวิ่งไปคนเดียว แต่เห็นนักวิ่งหลายคนเค้าก็มาวิ่งคนเดียวเยอะแยะเลย ก็ไม่แปลกหรอกที่เราจะไปคนเดียวบ้าง เพราะอีกหน่อยเราอาจต้องมาคนเดียว..เราวิ่งมาเรื่อยๆ บนถนนลาดยาง แล้ววิ่งออกจากรีสอร์ทหายเข้าไปในทางดินซึ่งเป็นพื้นที่ทำไร่มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพด ของชาวบ้านทั้งนั้น ตลอดสองข้างทางนั้นมีความร่มรื่น แสงแดดลอดลงมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น มองไปเห็นภูเขาเรียงราย หมอกลงคลุมภูเขาทุกลูก พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นเต็มดวงในอีกไม่กี่นาทีนี้ เป็นภาพที่สวยงามมากๆ มันคือภาพในจินตนาการของเรา ซึ่งไม่คิดว่า วันหนึ่งเราจะได้มายืนอยู่ต่อหน้าภาพนั้น..นี่ไงข้อดีของการวิ่งเทรล คุณจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ในที่ที่คุณไม่มีโอกาสจะเดินเข้ามาสัมผัสใกล้ชิดแบบนี้

นักวิ่งหลายคนอดใจไม่ไหวกับภาพอันงดงาม ซึ่งธรรมชาติเสกสรรมาให้เห็นเป็นบุญตา จึงหยิบกล้องมา selfie กันสนุกสนาน ไอ้เราก็อยากถ่ายบ้างนะ แต่แบบว่าขอเก็บไว้ในความทรงจำดีกว่า (จริงแล้วไม่มีคนถ่ายให้ selfie เองไม่ค่อยเก่ง)......ทางที่วิ่งนั้น เกือบตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยโคลน ต้องวิ่งลุยโคลนกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เรียกได้ว่าหยุบหยับๆ ตึ๋งหนืด รองเท้านี่หมดสภาพความเป็นรองเท้าวิ่งถนนเลยล่ะ(ใครให้แกเอารองเท้าถนนมาวิ่ง ห๊า!!)

ตลอดทางจะได้กลิ่นหญ้าเน่าที่ทับถมกันตามทางเดิน ทางวิ่ง เมื่อหญ้าที่มีอยู่ตามไหล่ทางผสมกับโคลนและน้ำ มันเลยเน่าเหม็นไง55 ..สนามนี้ไม่มีเขาให้ปีนเหมือนที่เขาประทับช้าง ราชบุรี ทางวิ่งจะเป็นทางดินกว้างประมาณรถกระบะคันใหญ่วิ่งสวนกันได้ มีเนินให้วิ่งก็เป็นช่วงๆ ทำเอาล้าต้นขามากเหมือนกัน มีลำธารไหลผ่านเล็กๆ(ย้ำว่า เล็กๆๆ) ให้ข้ามผ่านจนรองเท้าเปียกยันถุงเท้าข้างใน วิ่งไปมันแห้งเองเฉยเลย....



ถ่ายรูปส่ง line หาเพื่อน บอกว่ายังอยู่ดีสบาย รอเราหน่อยนะ หาข้าวกินไปก่อน

วิ่งมาถึงแค่ km. ที่8 ก็เห็นนักวิ่งขาแรงกลับตัวมาแล้ว โอ่ว!! สุดยอดค่ะ ทั้งต่างชาติ ทั้งพี่ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก
คือ เค้าแข็งแรง และแกร่งกันจริงๆ เรายังวิ่งจ๊อกๆ อยู่เลย เค้าไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว เค้าทำไงกันนะ ทำไมเค้าเก่งกันจัง....เราต้องพัฒนาให้ได้แบบเค้าแล้ว เราต้องขยันซ้อม ต้องหาเทคนิค ต้องไม่วิ่งเรื่อยเปื่อยเหนื่อยก็พักแบบนี้อีกในงานหน้า (คิดในใจคนเดียว) ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาวิ่งมาเรื่อยๆ อาการเจ็บเข่าเริ่มมาอีกแล้ว ตอนถึง km.ที่ 15 เลยพยุงร่างกายไว้ ไม่ฝืนวิ่งเร็วๆ ไม่อยากโดนปฐมพยาบาล  คราวนี้เดินอย่างเดียวเลยค่ะ นึกได้หยิบมือถือมา live สด ขำๆ เดินไปเรื่อยๆ แบบเร็วๆ จนใกล้ถึงเส้นชัย ....และกำลังจะเข้าสนาม คราวนี้เราฝืนวิ่ง กัดฝัน Acting ว่าฉันวิ่งมานะย่ะ ไม่ได้เดินมาสักหน่อย....มีนักวิ่งชายวิ่งนำหน้าเรา 2-3 คน เราวิ่งตามหลังมา ...เราคิดว่าพอเข้าเส้นชัย เจ้าหน้าที่จัดงานที่นั่งอยู่เรียงรายเต็มงาน จะต้องปรบมือให้กำลังใจนักวิ่งที่วิ่งเข้าเส้นชัยเวลานี้เป็นแน่ แต่ป่าวเลยค่ะ เราวิ่งเข้าเส้นชัยมาห่างจากนักวิ่งชายเพียง ไม่กี่ก้าว เราไม่ได้ยินเสียงปรบมือ หรือเสียงแสดงความยินดีใดๆ แม้แต่เสียงเดียวจากเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานเลย (นึกภาพแบบว่าวิ่งเข้ามาพร้อมเปิดsound จิ้งหรีดกินน้ำค้างน่ะค่ะ) ทุกคนนั่งก้นติดเก้าอี้ นั่งมองนักวิ่งวิ่งเข้าเส้นชัยเฉยๆ เราพูดเลย เราไม่ประทับใจงานนี้เท่าไหร่ ซึ่งไม่เหมือนงานอื่นที่เราเคยไปร่วม ที่แม้คุณจะเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายหรือคนแรก เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ยังรอยืนปรบมือให้คุณอยู่ เหมือนว่าคุณเป็นนักวิ่งคนสำคัญคนหนึ่งของงาน




ยกขาไม่ไหวแล้ว



มี time slip ให้ด้วย
Finisher




รัดน่องคู่เดิม เพิ่มเติมคือประสบการณ์




ขอบใจมากรองเท้าเพื่อนยาก งานหน้าจะไม่พามาลุยโคลนแบบนี้อีกแล้วนะ

สรุปงานนี้เราไม่มีอุปกรณ์วิ่งอะไรเพิ่มเติมจากงานที่แล้ว นอกจากใจที่มีความอยากลองสนามใหม่ๆเพิ่มขึ้น เรารู้สึกสนุกกับการวิ่งทุกครั้งเมื่อได้ออกมาวิ่งที่ต่างจังหวัด มันทำให้เราได้เที่ยวและได้สุขภาพไปในตัว แม้ไม่ได้แวะสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ แต่เราได้โอโซนดีๆ เย็นๆ จากธรรมชาติแบบนี้ ก็พอใจแล้ว


Event  :  Tiger Balm Khao Yai Trail Series 2016
Date    :  02 October 2016
Place   :  Sameur Dao Resort, Khao Yai
Finished Time : 3:39 hrs.


ติดตามกันบล็อคหน้านะค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
เหมียวลาย










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น