เที่ยวอัมพวาใน 2 วัน@จังหวัดสมุทรสงคราม

สวัสดีค่ะ  ^^ สบายดีกันทุกคนนะค่ะ
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2557 เราได้ตัดสินใจ ใช้วันพักร้อนที่มีอยู่ในปีนี้ ไปพักผ่อนที่อัมพวา ได้จองห้องพักที่ บ้านพี่อุ้มเรือนพี่ต๋อง ซึ่งเป็นที่พักแบบแพลอยน้ำ แต่มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนที่พักไปพักที่อื่น ซึ่งได้พักที่ "บ้านครูปู" ค่ะ

 



พร้อมเดินทาง

ก่อนล้อหมุนเดินทาง ขอกระตุ้นหัวใจซะก่อน เพื่อความสดชื่น(ดูเป็นสาวสิบล้อยังไงไม่ทราบ)

เราออกจากกรุงเทพ สายหน่อย 11.00 ไปถึงก็บ่ายโมงพอดีเลยแวะทานอาหารที่ร้าน Local หน่อย ชื่อร้านว่า "ครัวแพกุ้งแม่น้ำ บางพรหม" ขับรถเลยที่พัก บ้านครูปูมาไม่ไกลค่ะ( ไม่มีบรรยากาศที่ร้านนี้ มีแต่ภาพอาหาร อิอิ) ร้านอาหารติดริมน้ำเลย ลมเย็นพัดฉิว บอกเลย ชอบมาก

อาหารอร่อยดีค่ะ  กินคู่กับบรรยากาศดีๆ



กุ้งแม่น้ำ 4 ตัวครึ่งโลกว่า(รู้สึกผิดจริงๆ สั่งเค้ามาแบบเป็นๆ เลยว่าจะทำบุญไปให้เค้าค่ะ)

อิ่มท้องแล้วก็ ไป บ้านครูปู กัน

บ้านครูปูเป็นที่พักใกล้ริมคลอง เดินจากที่พักไปประมาณ 200 เมตร ก็ถึงตลาดน้ำแล้ว โดยความคิดเห็นส่วนตัวถือว่า สะดวกนะค่ะ เพราะได้เดินชมโน่น นี่ นั่น ไปตลอดทาง เสียงเรือหางยาว เรือพาเที่ยว พาทัวร์ วิ่งกันสลับไปมาค่ะ



หน้ารีสอร์ทค่ะ กำลังจะไปเดินตลาดตอนเย็นๆ



บ้านพักที่นี่จะตั้งชื่อตามไม้พรรณที่มีอยู่ภายในรีสอร์ทค่ะ

อาบน้ำอาบท่าแล้วเราก็ไปเดินตลาดกันค่ะ



ตลาดจะคึกคักช่วง 5โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึง 4 ทุ่ม

เราเลยเดินชิลชิลไปอุทยาน ร.2 กันก่อน ไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่า ปิดแล้ว เปิดถึงแค่ 4 โมงเย็น แต่ให้เข้าไปเดินชม เดินเล่นได้นะ แค่ไม่ให้ขึ้นไปข้างบนเรือน ก็พอ แถมเจ้าหน้าที่ใจดีให้เข้าไป ไม่เสียค่าบริการด้วยล่ะ ขอบอกเดินเพลินเลย กว้างมากค่ะ


ด้านหน้าอุทยาน

ดอกไม้ในอุทยานแห่งนี้สวยงามมากค่ะ



ยามเย็น

ลมเย็น อากาศดี

เดินกันเพลินๆ จน 6 โมงกว่าๆ ก็กลับออกมา ไปเดินตลาด

 



คนเยอะมาก และของกินก็เพียบจ้า

นี่แหละ ตลาดน้ำอัมพวา



อยากนั่งเรือไปชมหิ่งห้อยจัง แต่ติดที่จองโต๊ะ Dinner ไว้แล้วนี่สิ

ดินเนอร์นี้เราได้จองไว้ที่ "ร้านเจ้าสำราญ" ซึ่งอยู่แถวตลาดน้ำ ร้านนี้มีวิวที่สุดยอด ติดแม่น้ำแม่กลองเลยค่ะ ลมดี ไม่ร้อนเลย นั่งทานข้าวกับคนรู้ใจนี่ สุดยอดๆๆ นักดนตรีของทางร้าน รู้สึกจะมี 3 วงต่อคืน พวกเค้าร้องเพลงเพราะมากค่ะ ทั้งเพลงสากลและสตริงไทยๆ อ่อ..ร้านนี้ต้องโทรจองล่วงหน้านะค่ะ เพราะเต็มเร็วค่ะ

ที่นั่งริมแม่น้ำเลยนะ

ปูดำนึ่ง(ต้องทำบุญให้อีก 2 ชีวิต)

หอยหลอดผัดฉ่า ไม่เผ็ดร้อนมาก หอยตัวใหญ่ๆๆๆ มาก ผิดจากที่เคยได้กินที่ดอนหอยหลอดเลย

สายๆ วันต่อมาเราก็เก็บข้าวของเตรียมจะกลับ แต่แวะไปบ้านแมวไทยของคุณลุงกำนันปรีชาก่อนค่ะ เนื่องจากเป็นคนชอบและรักแมว อยู่กับแมวมาแต่เล็กๆ จึงมีความผูกพันกับแมวเป็นทุนเดิมค่ะ มีรูปมาฝากบางส่วนนะค่ะ ใครที่ทนกับกลิ่นแอมโมเนียจากฉี่แมวไม่ได้ แนะนำถ้าไปให้นั่งรอด้านนอกค่ะ เพราะกลิ่นแรงมากๆค่ะ



วิเชียรมาศ (Siamese)



วิเชียรมาศอีกหนึ่งคลอกที่คุณแม่กำลังจะให้นมลูกน้อย



สีสวาด(Silver Blue) หน้าน้องเค้าเป๊ะ จริงนะเออ



ขาวมณีหรือขาวปลอด(Pure White)



ขาวมณีตัวนี้เป็นหนุ่มน้อยน่ารักมาก ขี้อ้อนมากๆค่ะ เราใช้เวลาอยู่กับเจ้าตัวนี้กว่า 20 นาทีเลย ถูกชะตาสุดๆ

ศุภลักษณ์หรือทองแดง

อ้าว.....ลืมเก็บภาพน่ารักๆของเจ้าแมว โกนจาหรือดำปลอด (Bombay) มาฝากค่ะ > <

เราได้พูดคุยกับคุณลุงกำนันปรีชาถึงการอนุรักษณ์แมวไทยของท่าน ท่านว่ามีคนมาขอซื้อแมว 42 ตัว ในราคา 5 ล้าน(หรือ 15 ล้าน จำไม่ได้) แต่คุณลุงไม่ขายค่ะ จะอนุรักษณ์ไว้แบบนี้ค่ะ

เสร็จจากเยี่ยมน้องเหมียว เราก็กลับ กทม. กันแล้วค่ะ อ่อ อย่าลืมแวะไปวัดบางกุ้ง ค่ายบางกุ้งของพระเจ้าตากสินนะค่ะ แนะนำให้ไปไหว้หลวงพ่อนิลมณีเพื่อเป็นศิริมงคลกับตนเองค่ะ

หลวงพ่อนิลมณี

ท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบทความของเหมียวลายนะค่ะ  อยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ

ขอทุกท่านจงมีแต่ความสุขในทุกๆวันค่ะ

เหมียวลาย

วัดหงษ์ทอง วัดกลางน้ำ

 

สวัสดีค่ะ


นี่เป็นการเขียนบทความครั้งแรกของเรา ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้นะค่ะ

วันนี้เรามีโอกาสได้เล่าเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นวัดมาให้ดูกัน
สืบเนื่องมาจากที่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เรากับครอบครัวได้มีโอกาสไปเที่ยวชมวัดสมานรัตนาราม (วัดพระพิฆเนศสีชมพู ปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เราไป โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบวัดนี้ ขอไม่ รีวิวให้ดูนะค่ะ

ขากลับจึงชวนพ่อไปเที่ยว วัดหงษ์ทอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นคาบเกี่ยวกับคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเรารู้จักวัดนี้ก่อนหน้าประมาณ 2 วันในเว็บหนึ่ง เห็นว่าอยู่ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราพอดี เลยชวนพ่อไป และเค้าว่ายังขาดปัจจัยในการสร้างอาคารต่างๆ ในวัด เลยอยากไปทำบุญที่นี่ มาชมกันเลยค่ะ (รูปน้อยไปหน่อย อย่าว่ากันนะ)

ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัด จะมีรูปปั้น หงษ์ทองตัวใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า พอขับเข้าไปด้านใน ก็จะรู้สึกสดชื่นกับนากุ้งของชาวบ้านที่กินบริเวณกว้าง สวยงาม และแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติค่ะ (ไม่ได้เอารูปมาฝาก ขอโทษนะค่ะ^^)


นี่เป็นสะพานทางเดินเข้าไปในบริเวณวัด จริงๆ ไม่ควรให้รถมาจอดแบบนี้ เพราะเค้ามีลานจอดรถกว้างขวางด้านนอกให้อยู่แล้ว

ช่วงน้ำลงพอดีค่ะ

เดินข้ามสะพานตรงนี้

ที่นี่เป็นชายเลน ที่มีปลาตีนตัวใหญ่เท่าปลาช่อนเลย คิดว่าแหล่งอาหารที่นี่อุดมสมบูรณ์มากนะค่ะ ปูตัวเล็กตัวน้อยมีเป็นล้านๆ ตัว ระหว่างทางเดินเข้าไปกราบพระในโบสถ์ก็จะต้องข้ามสะพานไม้ตรงนี้ ซึ่งมีผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณี นางเงือก ฤาษี ในนิทานตำนานที่เราๆ เคยได้เล่าเรียนมา


ช่วงที่ไปน้ำลง เลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

สะพานไม้เดินได้รอบเลย

ผีเสื้อสมุทร นางยักษ์ผู้น่าสงสาร

เห็นแล้ว โบสถ์กลางน้ำ เข้าไปไหว้พระกันดีกว่า เพิ่งทราบว่าที่นี่มีพระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่เป็นพระประธาน

มีพระให้กราบไหว้เยอะเลย

พระพุทธชินราช

ส่วนที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่นี้ คือ อาคารสำหรับไว้เก็บอัฐิ ของญาติโยมที่เสียชีวิตไปแล้ว ดูในรูปจำลอง เป็นอาคารสูงมาก (กี่ชั้นจำไม่ได้ ) เนื่องจากว่าท่านเจ้าอาวาสเห็นว่า เมื่อญาติโยมนำกระดูกมาลอยอังคารกันมาก ปีๆหนึ่งก็หลายคน พอน้ำลดลง ชิ้นส่วนและตะกอนกระดูกก็โผล่ขึ้นมา เป็นที่น่าสังเวชยิ่ง ท่านจึงสร้างอาคารไว้สำหรับเก็บเถ้ากระดูกไว้นั่นเอง แต่ตอนนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะยังขาดปัจจัยอยู่มากโข ยังไงก็ไปเที่ยว ไปไหว้พระกันนะค่ะ ช่วยทำบุญที่วัดกันค่ะ ได้บุญเยอะนะค่ะ จะบอกให้

(ซ้ายมือ)อาคารที่จะสร้างให้แล้วเสร็จ เพื่อไว้สำหรับเก็บกระดูกญาติโยม

อ่อ แล้วที่นี่ก็มีศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่เรานับถือเป็นอย่างยิ่งด้วย เดินมาพบท่านแล้วดีใจสุดๆเลย


กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

เหล่าทหารเรือของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

การเดินทางก็สะดวกค่ะ ใช้เส้นทางกรุงเทพ - สมุทรปราการ แยกเข้าถนนสุขุมวิทสายเก่า ผ่านบางปูไปจนถึง กม.ที่ 62-63 จะมีทางแยกขวา ระหว่างทางจะผ่านนาเกลือ นากุ้ง ไปตามทางสร้างใหม่ประมาณ 400 เมตร หรือเดินทางตามถนนบางนาตราด หรือทางด่วนบูรพาวิถี และแยกขวาเข้าบางบ่อ ไปบรรจบกับสุขุมวิทสายเก่าแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังวัดก็ได้ค่ะ

แต่หากเดินทางมาจากฉะเชิงเทรา ให้ใช้เส้นทางฉะเชิงเทรา-บางปะกง ประมาณ 26 กิโลเมตร ลอดใต้สะพานบางนาตราด มาบรรจบกับถนนสุขุมวิทสายเก่า แยกขวาไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดหงษ์ทองทางซ้ายมือแล้วค่ะ

เป็นไงค่ะ อยากไปไหว้พระที่นี่กันบ้างมั้ย รูปน้อยจริงๆ รีวิวแรก ไม่ว่ากันน๊า

ขอบคุณที่รับชมค่ะ

เหมียวลาย